17 พ.ย. 2555
ความเป็นมาของปลากัด
ปลากัด หรือ ปลากัดภาคกลาง (Siamese fighting fish) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Betta splendens เป็นปลาน้ำจืดขนาดเล็ก อยู่ในวงศ์ Macropodinae ซึ่งอยู่ในวงศ์ใหญ่ Osphronemidae มีรูปร่างเพรียวยาวและแบนข้าง หัวมีขนาดเล็ก ครีบก้นยาวจรดครีบหาง หางแบนกลม มีอวัยวะช่วยหายใจบนผิวน้ำได้โดยใช้ปากฮุบอากาศโดยไม่ต้องผ่านเหงือกเหมือนปลาทั่วไป เกล็ดสากเป็นแบบ Ctenoid ปกคลุมจนถึงหัว ริมฝีปากหนา ตาโต ครีบอกคู่แรกยาวใช้สำหรับสัมผัส ปลาตัวผู้มีสีน้ำตาลเหลือบแดงและน้ำเงินหรือเขียว ครีบสีแดงและมีแถบสีเหลืองประ ในขณะที่ปลาตัวเมียสีจะซีดอ่อนและมีขนาดลำตัวที่เล็กกว่ามากจนเห็นได้ชัด
ขนาดโตเต็มที่ประมาณ 6 เซนติเมตร พบกระจายอยู่ทั่วไปในแหล่งน้ำนิ่งที่มีขนาดตื้นพื้นที่เล็กทั้งในภาคกลางและภาคเหนือในประเทศไทยเท่านั้น สถานะปัจจุบันในธรรมชาติถูกคุกคามจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปและสารเคมีที่ตกค้าง
มีพฤติกรรมชอบอยู่ตัวเดียวในอาณาบริเวณแคบ ๆ เพราะดุร้ายก้าวร้าวมากในปลาชนิดเดียวกัน ตัวผู้เมื่อพบกันจะพองตัว พองเหงือก เบ่งสีเข้ากัดกัน ซึ่งในบางครั้งอาจกัดได้จนถึงตาย เมื่อผสมพันธุ์ ตัวผู้จะเป็นฝ่ายก่อหวอดติดกับวัสดุต่าง ๆ เหนือผิวน้ำ ไข่ใช้เวลาฟัก 2 วัน โดยที่ปลาตัวผู้จะเป็นฝ่ายดูแลไข่และตัวอ่อนเอง โดยไม่ให้ปลาตัวเมียเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เป็นปลาที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดีมาแต่โบราณ โดยปลากัดสายพันธุ์ดั้งเดิมจากธรรมชาติมักเรียกติดปากว่า "ปลากัดทุ่ง" หรือ "ปลากัดลูกทุ่ง" หรือ "ปลากัดป่า" จากพฤติกรรมที่ชอบกัดกันเองแบบนี้ ทำให้นิยมนำมาเลี้ยงใช้สำหรับกัดต่อสู้กันเป็นการพนันชนิดหนึ่งของคนไทย และได้มีการพัฒนาสายพันธุ์และความสามารถในชั้นเชิงการกัดจนถึงปัจจุบัน จนเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของประเทศไทยและเป็นที่รับรู้ของชาวต่างชาติในชื่อ "Siamese fighting fish"
ในปัจจุบัน ปลากัดภาคกลางได้ถูกพัฒนาสายพันธุ์ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น มีสีสันที่สวยงามและหลากหลายขึ้น เรียกว่า "ปลากัดหม้อ" นิยมเลี้ยงในภาชนะขนาดเล็กและแคบ เช่น ขวดโหล ขวดน้ำอัดลม เป็นต้น อีกทั้งยังได้พัฒนาสายพันธุ์ในแง่ของความเป็นปลาสวยงามอีกหลายสายพันธุ์ เช่น ปลากัดจีน ที่มีเครื่องครีบยาว ปลากัดแฟนซี ที่มีสีสันหลากหลายสวยงาม ปลากัดคราวน์เทล หรือ ปลากัดฮาร์ฟมูน เป็นต้น
ที่มาของปลากัด
ปลากัด Betta splendens เป็นชื่อทางวิทยาศาสตร์และชื่อปลากัดเป็นปลาที่พบบ่อยคือจากความนิยมวัฒนธรรมแห่งประเทศไทยมาเป็นเวลานาน บรรดาปลาของประเทศไทยสามารถเข้าถึงได้ง่ายริมคลอง รูปแบบสีที่สวยงามจะข้ามสายพันธุ์ต่างประเทศของสายพันธุ์ทั่วไป ในกรณีที่ปัจจุบันคือสำหรับแต่ละสายพันธุ์ ฉันรู้ว่าเราเป็นบุคคลที่ ปลากัด มันมีอยู่สองวัตถุประสงค์หลักคือล่าสุด กัดสำหรับกีฬาตกปลา ปัจจุบันประเทศไทย ได้รับการปลูกฝังอย่างกว้างขวางปลา เพราะมันไม่ง่ายที่จะปลาและพืช คุณไม่ดูแลคนจำนวนมากที่ได้เริ่มต้นเพียงการประมง ทั้งสองฝ่ายจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำบ่อยเพราะปลาที่เรียกว่าร่างกายเขาวงกตพิเศษหายใจอวัยวะซึ่งจะทำหน้าที่ ถอดออกซิเจนจากน้ำ เปลี่ยนเป็นเครื่องที่ฉันหายใจในความกลมกลืนกับธรรมชาติ ประเทศไทยมักจะพบในปลา เมื่อน้ำสงบ น้ำหรือมีออกซิเจนน้อย นอกจากนี้เรายังมีข้าวปลาในประเทศไทย
ที่พบบ่อยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อายุเฉลี่ยของปลาผู้ใหญ่ที่มีสองปีหรือน้อยขึ้นอยู่กับสุขภาพของปลาทำไร่ไถนาปลา แต่ตัวละครแบบดั้งเดิม ทึบแสงมักจะมีสีเทาน้ำตาลลายหรือสีเขียวพร้อมครีบหลังและหาง
ปลาตัวผู้มีตีนกบและหางมากกว่าเพศหญิง แต่เพียงไม่กี่ปีในการผสมพันธุ์แถวและการเลือก ปลาอยู่ในตลาดแล้ว มันมีสีที่สวยงาม ครีบมีขนาดใหญ่และขยายเกินความงามแบบดั้งเดิม และสิ่งที่ชนิดของปลาที่อยู่ในประเภทที่แตกต่างกันเช่นอ่างเลี้ยงปลากล่องปลาจีนปลากัด, ปลากัดกัมพูชา ฯลฯ จัด
ปัจจุบันการพัฒนาของสายพันธุ์ปลาได้รับการยอมรับ และปลาเป็นที่นิยมสำหรับความงามของพวกเขา ฉันไม่คิดว่าปลาเหล่านี้จึงมีสีสันมาก ดวงจันทร์ครึ่งสีเหลืองและสีฟ้ามีการอ้างอิงถึงปลา ด้วยสภาพแวดล้อมที่เป็นตัวเหนี่ยวนำ ด้วยความเชื่อมั่นว่าปลาที่มีสีสันที่เป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายทอดความรู้สึกของปลาตัวเมียที่ถูกนำมาใช้ในการดำเนินการของเทคนิคเหล่านี้เป็นปลาที่มี ดึงปลาหลากสีสันเท่าที่คุณต้องการและสีเหลือง ผมชอบคู่หญิงในระหว่างปี วิธีนี้เรียกว่า เทคโนโลยีการทำสำเนา Pseudo-แม้ว่ามันจะ ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ แต่มันได้รับการยืนยันโดยวัฒนธรรมของคนเสถียรภาพ, กู้ภาพวาด 1-2 ที่คล้ายกับพวกเขา นั่นดูน่าสนใจ และที่แปลกมาก
ประเภทของปลากัด
ปลากัด ปลากัดเก่ง สายพันธุ์ปลากัดในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นปลากัดจีน ปลากัดป่า ปลากัดสังกะสี หรือปลากัดชนิดอื่น
ปลากัดประเภทอื่น
ปลากัดประเภทอื่น
นอกจากที่ได้กล่าวมาแล้ว ยังมีปลากัดประเภทอื่น ๆ เช่น "ปลากัดเขมร" ที่ใช้เรียกปลากัดที่มีสีลำตัวเป็นสีอ่อนหรือเผือก และมีครีบสีแดง "ปลากัดหางคู่" ซึ่งครีบหางมีลักษณะเป็น 2 แฉก อาจแยกกันอย่างเด็ดขาด หรือที่ตรงโคนยังเชื่อมติดกันอยู่ก็ได้ รวมทั้งปลากัดที่เรียกชื่อตามรูปแบบสี เช่น "ปลากัดลายหินอ่อน" และ "ปลากัดลายผีเสื้อ"
ปลากัดหางมงกุฎ
ปลากัดหางมงกุฎ
เป็นปลากัดที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นใน พ.ศ. 2543 โดยนักเพาะเลี้ยงปลากัดชาวสิงคโปร์ เป็นปลากัดสายพันธุ์ใหม่ที่มีหางจักเป็นหนามเหมือนมงกุฎ และเป็นสายพันธุ์หนึ่งที่ได้รับความนิยมเลี้ยงกันมากในปัจจุบัน ลักษณะสำคัญของปลากัดชนิดนี้คือ ก้านครีบจะโผล่ยาวออกไปจากปลายหาง ลักษณะดูเหมือนหนาม ซึ่งอาจยาวหรือสั้นแตกต่างกันออกไป เช่นเดียวกับลักษณะการแยกของปลายหนาม และการแยกการเว้าโคนหนามก็มีหลายรูปแบบ ปลากัดหางมงกุฎที่สมบูรณ์จะมีครีบหางแผ่เต็มซ้อนทับได้แนวกับครีบอื่น ๆ และส่วนของหนามมีการจัดเรียงในรูปแบบที่สวยงามสม่ำเสมอ
ปลากัดหางพระจันทร์ครึ่งซีก
ปลากัดหางพระจันทร์ครึ่งซีก
เป็นปลากัดที่มีหางแผ่เป็นรูปครึ่งวงกลม โดยขอบครีบหางจะแผ่เป็นแนวเส้นตรงเดียวกันเป็นมุม 180 องศา ได้มีแนวคิดและความพยายามในการที่จะพัฒนาปลากัดสายพันธุ์นี้ตั้งแต่ พ.ศ. 2500 ในประเทศเยอรมนี แต่เพิ่งประสบผลสำเร็จเมื่อราว พ.ศ. 2530 โดยนักเพาะเลี้ยงปลากัดเก่งชาวฝรั่งเศสและชาวเยอรมัน ปลากัดหางพระจันทร์ครึ่งซีกมีลักษณะที่สำคัญ คือ ครีบหางแผ่เป็นรูปครึ่งวงกลม โดยขอบครีบด้านหน้าจะแผ่เป็นแนวเส้นตรงเดียวกันเป็นมุม 180 องศา ครีบด้านนอกเป็นขอบเส้นโค้งของครึ่งวงกลม ก้านครีบหางแตกแขนง 2 ครั้ง เป็น 4 แขนง หรือมากกว่า ปลาที่สมบูรณ์จะต้องมีลำตัวและครีบสมส่วนกัน โดยลำตัวต้องไม่เล็กเกินไป ครีบหางแผ่ต่อเนื่องหรือซ้อนทับกับครีบหลังและครีบก้น จนเห็นเป็นเนื้อเดียวกัน ขอบครีบหลังโค้งมนเป็นส่วนหนึ่งของวงกลม เส้นขอบครีบทุกครีบโค้งรับเป็นเส้นเดียวกัน (ยกเว้นครีบอก) ปลายหางคู่ที่แยกเป็น 2 แฉกจะต้องซ้อนทับและโค้งมนสวยงาม ปลากัดหางพระจันทร์ครึ่งซีกที่แท้จริงจะต้องมีขอบครีบหางแผ่ทำมุม 180 องศา ได้ตลอดไป ถึงแม้ปลาจะมีอายุมากขึ้นก็ตาม
ปลากัดหางสามเหลี่ยม
ปลากัดหางสามเหลี่ยม
เป็นปลาที่พัฒนาสายพันธุ์มาจากปลากัดครีบยาว หรือปลากัดจีน เพื่อให้เป็นปลากัดเก่งโดยพัฒนาให้หางสั้นเข้าและแผ่กว้างออกไปเป็นรูปสามเหลี่ยม ขอบครีบหางกางทำมุม 45 - 60 องศา กับโคนหาง และต่อมาได้พัฒนาให้ครีบแผ่ออกไปกว้างมากยิ่งขึ้น เรียก "ซูเปอร์เดลตา" ซึ่งมีหางแผ่กางใหญ่กว่าปกติ จนขอบครีบหางด้านบนและล่างเกือบเป็นเส้นตรง
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)